[OS] BTS {Wendy X Irene}
เพราะโมเม้นพี่ไอรีนกับน้องซึงวานมันหวานเลยต้องแต่ง❤
ผู้เข้าชมรวม
1,900
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เกลียด
.
.
ซนซึงวานเกลียดสถานการณ์แบบนี้ที่สุด..
ร้อน อึดอัด คับแคบ..
ให้ตายเถอะ!..
ซน ซึงวานนักศึกษาชั้นปีหนึ่งคณะอักษรศาสตร์วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นบันไดที่ทอดยาวเข้าสู่สถานีรถไฟฟ้าอย่างรีบร้อน หลังจากที่ถูกรั้งให้อยู่ช่วยงานที่คณะจนเย็นย่ำ รู้ตัวอีกทีก็เกือบจะไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายเสียแล้ว ยกมือขึ้นพัดใบไล่ความร้อนบนใบหน้าจากการวิ่งมาราธอนที่ยาวนาน ขมวดคิ้วพลางถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อสำรวจจำนวนประชากรที่แออัดกันอยู่ในสถานีรถไฟแห่งนี้
คนเยอะอย่างกับฝูงมด.. น่ารำคาญจริง ๆ
.
.
เมื่อนิสัยขี้หงุดหงิดของตัวเองกำเริบ ซึงวานจึงหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมกับสภาพอารมณ์ของเธอตอนนี้ด้วยการแวะเข้าห้องน้ำไปก่อน.. น้ำเย็น ๆ ที่ไหลผ่านหลังมือทำให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นส่องกระจกพลางจัดการรวบผมยาว ๆ ของตัวเองไว้ สลัดมือที่เปียกน้ำเบา ๆ หางตาจะสังเกตเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาข้างใน..
!!!!!!!!
ซึงวานยกมือทั้งสองข้างขึ้นจัดผมของตัวเองอย่างรีบร้อนผิดปกติ พยายามเก็บอาการและสีหน้าของตัวเองไม่ให้ดูตื่นตระหนกมากเกินไป เผลอกลั้นหายใจไปเมื่อตอนที่ใครคนนั้นเดินผ่านด้านหลังของเธอไปพร้อมกับรอยยิ้ม..
รอยยิ้มสดใส ที่ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องหลงรัก
รอยยิ้มของเบ จูฮยอน
ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างเขินอาย อาการขี้หงุดหงิดเมื่อกี้หายไปหมดแล้วจะเหลือก็แต่อาการหวิว ๆ ในช่องท้องคล้ายจะเป็นลม เงาในกระจกสะท้อนให้เห็นรอยยิ้มงี่เง่าของตัวเอง.. ซึงวานหุบยิ้มลงพลางขมวดคิ้วทันที
‘นี่อย่าบอกนะว่าเธอทำหน้าแบบนี้ตอนที่จูฮยอนเดินผ่านน่ะ ..? ’
.
.
.
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่กว่าที่จะต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้วเดินฝ่าฝูงชนจำนวนมหาศาลมาได้ แถวเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ เหลือบมองนาฬิกาเรือนโตบนผนังที่กำลังบอกเวลา
19.23 น. ‘นี่เสียเวลาต่อแถวซื้อตั๋วนานเกือบชั่วโมงเลยหรอเนี่ย? ’ ขมวดคิ้วพลางบ่นกับระบบคมนาคมของประเทศตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด
แล้วนาทีของเธอก็มาถึง ประตูรถไฟเปิดออกราวกับเป็นประตูสวรรค์ ซึงวานพุ่งตัวเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อน กวาดสายตามองหาที่นั่งที่ว่างอยู่ ล็อคเป้าหมาย! แทบจะพุ่งเข้าไปในทันที่เมื่อมองเห็นที่ว่างแต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อความเร็วของเธอยังไม่มากพอที่จะแข่งขันกับมนุษย์ป้าคนหนึ่งที่วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ตัดหน้าเธอไป..
จึงจำเป็นที่เธอต้องเดินคอตกไปจับราวเอาไว้อย่างเซ็ง ๆ เมื่อประตูปิดรถไฟก็ออกตัว แรงกระชากจากการออกตัวทำให้เซไปด้านหลังเล็กน้อย ซึงวานถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อรับรู้ถึงแรงชนขนาดไม่เบาที่ชนเข้ากับหลังของเธอ นึกโกรธพาลไปถึงรุ่นพี่ที่คณะที่ชอบรั้งให้อยู่ช่วยงานจนค่ำกลับบ้านไม่เป็นเวลาแบบนี้
ไม่รู้รึไงนะว่าเวลาแบบนี้คนมันเยอะ แล้วเธอก็เป็นโรคไม่ชอบคนเยอะด้วย..
คิดพลางถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวันก่อนจะหันไปมองหาต้นเหตุที่ให้เธอต้องมายืนทบทวนความหลังที่ไม่น่านึกถึงเท่าไหร่นัก
!!!!!!!!!!
ราวกับว่าจะหยุดหายใจไปเสียดื้อ ๆ เมื่อต้นเหตุที่ให้เธอหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งคือคน ๆ เดียวกันกับคนที่ทำให้เธอยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องน้ำ เบจูฮยอน สมองเริ่มประมวลผลอะไรไม่ถูก ซึงวานกระพริบตาปริบ ๆ อย่างเก้อเขินเมื่อ จูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาพลางส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นปกติ แต่จะมีก็แค่เธอนี่แหละที่ไม่ปกติ..
เต้นเบาๆหน่อยได้มั้ยเล่า เดี๋ยวเค้าก็ได้ยินกันพอดี..
.
.
เวลาผ่านไปพักใหญ่รถไฟชะลอตัวเข้าจอดที่สถานีถัดมา แรงกระชากจากการจอดของรถไฟทำให้เธอเซไปข้างหลังอีกครั้งพร้อมกับชนเข้ากับผู้หญิงคนเดิมอย่างแรง จนมือที่จับราวเอาไว้เกือบหลุดออก..
“ขอโทษค่ะ ”
ขยับยิ้มให้ตอนที่พยายามกลั้นเสียงไม่ให้สั่นเพราะความอาย
พูดจบก็ก้มหน้าลงซ่อนใบหน้าแดงๆของตัวเองเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของอีกคนทำให้สติเธอเตลิดไปไกล..
.
.
ซึงวานเหลือบตาลงเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงที่ชายเสื้อนักศึกษาของตัวเอง เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่กำลังจับชายเสื้อเธอเอาไว้แน่น ส่งสายตาแทนเครื่องหมายคำถามไปให้อีกคน
จูฮยอนกำลังดึงชายเสื้อเธออยู่..
“ขอโทษนะแต่มันยืนไม่ได้”
ซึงวานไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ขยับตัวถอยหลังพลางดึงให้อีกคนเข้ามาใกล้ขึ้น
“ยืนได้มั้ยคะ?”
เอ่ยถามอย่างอดทนอดกลั้นกับความประหม่าของตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้รับรอยยิ้มหวานจากจูฮยอนเป็นการตอบแทน
วันนี้หัวใจเธอทำงานหนักไปมั้ยนะ..?
.
.
ตอนนี้ผ่านมาหลายสถานีคนในรถไฟก็เริ่มลดลงแล้วเช่นกัน ซึงวานมองออกไปข้างนอกหน้าต่างพลางกระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่ในแน่นเพื่อเตรียมตัวลงไปสถานีต่อไป เสียงเปิดประตูดังขึ้นผู้คนเริ่มทยอยออกกันทีละนิด
“บ้านอยู่แถวนี้หรอคะ?”
คนที่เงียบมาตลอดทางอย่างจูฮยอนพูดขึ้นทำลายความเงียบ เอียงคอรอคำตอบของอย่างน่ารัก พร้อมกับเดินข้ามประตูออกมาพร้อมกัน
“ค่ะ หอพักอยู่แถวๆนี้แล้วจูฮยอนล่ะคะ?” ขยับยิ้มตอบอย่างใจเย็น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้อีกคนรู้ว่าเธอกำลังประหม่า
“รู้จักชื่อเราแล้วหรอคะ?”
เท้าที่กำลังเดินอยู่หยุดชะงัก ซึงวานจับกระเป๋าของตัวเองแน่นสมองเริ่มคิดหาคำแก้ตัวอย่างหนัก
“เอ่อ.. พอดีว่าเราเป็นแฟนคลับเธอน่ะ” ซึงวานยิ้มตอบพลางหัวเราะเบา ๆ เมื่อจูฮยอนยังคงทำหน้างุนงงไม่เข้าใจมุขของเธอ ‘ให้ตายเถอะ.. นี่อุตส่าห์กลั้นใจเล่นเลยนะ.. ’
“เป็นแฟนคลับแล้วอย่างลองเป็นแฟนอย่างอื่นมั้ยล่ะ?”
“.....”
“ว้าาา ไม่ตลกหรอเนี่ย..” จูฮยอนมุ้ยหน้าอย่างขัดใจเมื่อเธอทำหน้านิ่งเหมือนยังไม่เก็ท
แต่ในความจริงแล้วหัวใจซึงวานกำลังเต้นแรงมากต่างหาก ราวกับว่ากำลังเล่นเครื่องเล่นอยู่ในสวนสนุก..
‘ให้ตายเถอะ.. เล่นมุขแบบนี้ระวังเถอะนะจะได้แฟนกลับไปจริง ๆ ’ ซึงวานคิดพลางยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง เมื่อสติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดเริ่มถูกริดรอนออกไปอีกครั้งเพราะความน่ารักเกินไปของ จูฮยอน รอยยิ้มของอีกคนช่างมีผลกับคนแบบเธอนัก แค่จูฮยอนยิ้มโลกทั้งไปของเธอก็เหมือนกับจะเสียการควบคุมไปซะดื้อ ๆ ..
ระหว่างทางที่เดินมาไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก คนที่เคยร่าเริงสดใสพูดจาเก่งอย่างเธอ ในตอนนี้กลับเงียบสนิทราวกับว่ามีใครมาปิดสวิตซ์เอาไว้ อยากจะถามไถ่พูดคุยกับจูฮยอนอย่างเป็นปกติเพราะกลัวอีกคนจะอึดอัดแต่ก็ไม่อาจทำได้เมื่อเงยหน้าขึ้นเผลอสบดวงตาหวาน ๆ ที่ไรสมองก็เหมือนจะหยุดทำงานไปเสียดื้อ ๆ คำพูดที่คิดเอาไว้ก็ถูกกลืนหายไปในลำคอจนหมด
“น่ารัก..”
หลุดปากเอ่ยคำพูดที่คิดเอาไว้ในหัวเมื่อตอนที่ได้เผลอสบตาอีกครั้ง
“คะ?”
“เอ่อ.. แมวน่ะ”
นี่คือตัวอย่างของการสูญเสียการควบคุมตัวเอง ซึงวานนิ่งสนิทชี้ไม้ชี้มือไปทางแมวสองตัวที่กำลังออดอ้อนกันอย่างน่ารักน่าชัง นึกขอบคุณแมวสองตัวนั้นที่เดินผ่านมาพอดี รู้สึกโล่งอกเมื่อ
จูฮยอนละความสนใจจากเธฮไปยังแมวสองตัวนั้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าขึ้นมาถ่ายรูป
“ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะเดินมาด้วยกันตั้งนานเรายังไม่รู้จักชื่อเธอเลย” จูฮยอนละความสนใจจากโทรศัพท์ในมือของตัวเองขึ้นมามองหน้าของเธอ
“ซน ซึงวาน” ขยับปากพูดทีละคำอย่างใจเย็น
“ชื่อเหมือนผู้ชายเลยอ่ะ” หุบยิ้มลงทันที แต่ดูเหมือนว่าอาการของเธอจะไปจี้จุดอะไรบางอย่างของอีกคน เพราะตอนนี้จูฮยอนกำลังหัวเราะอย่างหนักพลางเอามือกุมหน้าของตัวเอง
ตลกอะไรขนาดนั้นนะ..? เธอคิดก่อนจะหยุดเดินเพื่อยืนให้จูฮยอนหัวเราะให้เสร็จ
“วานอา.. หน้าเธอ..” จูฮยอนกำลังใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นหัวเราะ ซึงวานขมวดคิ้วพลางคิดในใจว่าเธอกับจูฮยอนดูจะเข้ากันได้ดี และอีกคนก็ดูไม่เหมือนจะไม่เป็นเหมือนอย่างที่เคยได้ยิน
“นี่เราขอไลน์เธอหน่อยสิ”
“หื้มม?”
ทันทีที่หยุดหัวเราะ จูฮยอนก็เงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรแปลกๆกับเธออย่างตั้งใจ
“แมวไง..”
“แมว?”
“ก็เนี่ยรูปแมวสองตัวนั้นไงที่เธอบอกว่าน่ารักอยากได้ป่าวเราถ่ายไว้น่ะ” จูฮยอนยิ้มกว้างพลางชูรูปแมวที่ตนเองถ่ายเอาไว้ให้ดู แม้จะอยู่ให้อาการไม่เข้าใจอะไรแต่เธอก็ไม่โง่ที่จะไม่คว้าโอกาสไว้
ซึงวานรับโทรศัพท์จากอีกคน พิมพ์อะไรบางอย่างก่อนจะยื่นคืนให้
“ถ่ายอะไรมาเยอะแยะเนี่ยนี่ขนาดเดินผ่านแค่แปบเดียวนะ” ขมวดคิ้วกับจำนวนรูปภาพที่เด้งขึ้นมานาทีต่อนาที
“ก็น่ารักนี่นา..”
จูฮยอนตอบพลางเงยหน้าขึ้นแอบมองเสียวหน้าของอีกคนที่กำลังให้ความสนใจกับภาพในโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ ‘ ก็น่ารักจริงๆนะ ไม่ได้โกหกซะหน่อย’ ขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อซึงวานเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาแทนเครื่องหมายคำถามให้เธอ
“แมวน่ะ”
ขยับยิ้มตอบ ใบหน้าที่ดูมีความสุขกับอะไรทุกอย่างบนโลกทำให้จูฮยอนอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
หัวใจกระตุกวูบ เมื่อซึงวานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอด้วยสายตางงงวยก่อนจะก้มลงไปสนในโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง จูฮยอนต้องใช้ความพยายามอย่างมากแค่ไหนนะที่จะบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเธอไม่ให้เผลอหลุดยิ้มกว้างออกไปยามเมื่อมองหน้าของอีกคน
.
.
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ร่างเล็กๆของผู้หญิงสองคนกำลังเดินอยู่บนถนนด้วยกัน ซึงวานก้มหน้าลงมองรองเท้าและจังหวะการเดินของพวกเธอ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สังเกตเห็น
พวกเธอสองคนกำลังเดินไปพร้อมกัน..
BONUS.
“อื้ออ นอนหลับฝันดีนะวานอา..”
หลังจากบอกลาอีกคนเสร็จสรรพพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
จูฮยอนก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกดเข้าไปในโปรแกรมสนทนาสีเขียวๆ
ลงยากจังค่ะอะไรก็ไม่รู้ #บ่น
เค้าก็นึกว่ามันยังไม่ลงให้ก็เลยกดซ้ำตั้งสี่ห้ารอบ TT
ผลงานอื่นๆ ของ CRXY09 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ CRXY09
ความคิดเห็น